วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรื่อง “ การอธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์ ”

ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์                                                                 -1-                                                                 โดย ศจ.นิรุทธิ์  จันทร์ก้อน

เรื่อง การอธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์

อฟ.6:12-19             เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้น และเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้ เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน และอธิษฐานเพื่อข้าพเจ้าด้วย เพื่อจะทรงประทานให้ข้าพเจ้ามีคำพูดและเกิดใจกล้า ประกาศและสำแดงข้อลับลึกแห่งข่าวประเสริฐได้
พระวจนะตอนนี้ พระเจ้าสอนให้เรารู้ว่า เราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด คือ เราไม่ได้ต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันเอง แต่เรากำลังต่อสู้กับมารซาตานซึ่งชักใยอยู่เบื้องหลังความชั่วร้ายทั้งปวงของมนุษย์ เบื้องหลังของความโกรธ ความเกลียด ความโลภ ความเย่อหยิ่ง และการร้ายทั้งปวง คือ มารซาตานและวิญญาณชั่ว มนุษย์จะเอาชนะในสงครามฝ่ายวิญญาณนี้ได้ ต้องสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเท่านั้น และหนึ่งในยุทธภัณฑ์นั้น  คือ การอธิษฐาน (อฟ.6:18-19)
การอธิษฐานนั้น ต้องเป็นการอธิษฐานวิงวอน ต้องเป็นการอธิษฐานขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ต้องเป็นการอธิษฐานด้วยความเพียร ต้องเป็นการอธิษฐานเผื่อธรรมิกชน และต้องเป็นการอธิษฐานเผื่อผู้รับใช้พระเจ้า จึงจะเอาชนะมารได้
มารซาตานรู้ดีว่า การอธิษฐานมีพลังในการทำลายงานของพวกมันได้ มารซาตานจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะขัดขวางไม่ให้เราอธิษฐานกับพระเจ้า ถ้าเราจะสังเกตให้ดีจะพบว่า เราใช้เวลาในการพูดคุยสนทนาเรื่องทั่วไปได้เป็นเวลานาน แต่เมื่อถึงคราวที่จะต้องอธิษฐาน เรากลับอธิษฐานได้เพียงนิดเดียว เราอาจจะอ่านพระคัมภีร์ได้นาน นมัสการได้นาน แต่เมื่อถึงเวลาอธิษฐาน จะมีความรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน นั่นเพราะ เรากำลังอยู่ในสงครามฝ่ายวิญญาณ

ดังนั้น ในการอธิษฐาน พระเจ้าจึงเข้ามาช่วยเหลือเราอีกทาง โดยประทานภาษาแปลกๆ หรือภาษาสวรรค์ให้กับผู้เชื่อ เพื่อเราจะสามารถอธิษฐานกับพระเจ้าได้นานขึ้น ทรงพลังขึ้น ทะลุทะลวงปัญหาได้มากขึ้น
มก.16:17                                มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ
การอธิษฐาน เป็นการที่มนุษย์สนทนากับพระเจ้า ... หากปราศจากภาษาที่ใช้สื่อ เราก็ไม่สามารถอธิษฐานได้
การอธิษฐาน เป็นส่วนหนึ่งของการนมัสการ ผูกพันกันจนไม่สามารถแยกกันออกได้ ในการนมัสการ จะมีการอธิษฐาน และในการอธิษฐาน อาจจะมีการนมัสการด้วย
ดังนั้น ภาษาและการสื่อสารจึงสำคัญมาก และการอธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ หรือภาษาสวรรค์ เป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้เชื่อต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเกิดความเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องเกิดผล


1. ภาพรวมของการอธิษฐาน
1.1 การอธิษฐาน เป็นความล้ำลึกของผู้เชื่อที่มีกับพระเจ้า
การอธิษฐานอย่างถูกต้องเป็นความล้ำลึกที่เรามีกับพระเจ้า เป็นภาพของการคลอเคลียระหว่างเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว พ่อแม่กับลูก
สถานภาพของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว หรือสถานภาพของพ่อแม่กับลูก
เป็นความผูกพันที่ล้ำลึก เพราะถือเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
พระคริสต์เป็นเจ้าบ่าวและผู้เชื่อเป็นเจ้าสาว พระคริสต์เป็นพ่อแม่และผู้เชื่อเป็นลูก
ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์                                                                 -2-                                                                 โดย ศจ.นิรุทธิ์  จันทร์ก้อน

วว.19:7-8                ขอให้เราทั้งหลายร่าเริงยินดีและเต้นโลดถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะถึงเวลามงคลสมรสของพระเมษโปดกแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์ได้เตรียมพร้อมแล้ว" ทรงโปรดให้เจ้าสาวสวมผ้าป่านเนื้อละเอียดใสบริสุทธิ์ เพราะผ้าป่านเนื้อดีนั้นได้แก่ การประพฤติอันชอบธรรมของพวกธรรมิกชน"
ยน.1:12                  แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็ทรงประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระเจ้า

1.2 พระคัมภีร์ เป็นคู่มือของการอธิษฐาน
เราสามารถเรียนรู้การอธิษฐานได้จากพระคัมภีร์
ยน.4:23-24             แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง
พระวจนะตอนนี้ พระเยซูทรงสอนเรื่องการอธิษฐานที่ลึกซึ้ง
พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และมนุษย์มีวิญญาณจากพระเจ้า ...
ทุกครั้งที่เราออกพระนามของพระเจ้า พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย นี่เป็นความอัศจรรย์และความล้ำลึกของพระเจ้า
ดังนั้น เราจึงต้องนมัสการ (อธิษฐาน) ด้วยจิตวิญญาณและความจริง (ตามพระคัมภีร์) เพราะพระเจ้าแสวงหาคนเช่นนั้น
เมื่อเราอธิษฐานถูกต้องตามพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นคู่มือของการอธิษฐาน เราก็จะรับพระพรและรับพลังจากสวรรค์

ยน.6:63                  จิตวิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต
พระวจนะตอนนี้ พระเจ้าเตือนให้เรารู้ว่า จิตวิญญาณเป็นที่ให้ชีวิต
การอธิษฐาน การนมัสการเป็นงานหลักฝ่ายจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นที่ให้มีชีวิตแก่มนุษย์ทุกคน
จิตวิญญาณเป็นที่ให้ชีวิต หมายถึง จิตวิญญาณเป็นที่ให้ความสุข ให้ความสงบ ให้พระพร
จิตวิญญาณ เป็นส่วนที่ควบคุม จิตใจ และ จิตใจ เป็นส่วนที่ควบคุม ร่างกาย
เมื่อจิตวิญญาณดี ก็ส่งผลให้จิตใจดี และจิตใจดี ก็ส่งผลให้ร่างกายดีด้วย
การอธิษฐาน เป็นการเข้าไปถึงแก่นภายในจิตวิญญาณ เมื่อจิตดี ทำอะไรก็สบาย กินก็ง่าย นอนก็หลับ
แต่หากจิตวิญญาณไม่ดี ก็ส่งผลให้จิตใจและร่างกาย ไม่ดีไปด้วย

รม.14:17                 เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระวจนะตอนนี้ สอนเราเรื่องแก่นสารของชีวิต
แผ่นดินของพระเจ้า คือ แก่นสารของชีวิตมนุษย์
แก่นชีวิตของคนเรา ไม่ใช่เรื่องวัตถุ ไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่คือ สันติสุขและความชื่นชมยินดี
ภายในจิตวิญญาณของเราต้องมีบ่อน้ำพุของพระเจ้า ซึ่งเป็นที่นำมาซึ่งความชื่นชมยินดีในชีวิต
และเราสามารถรับสิ่งเหล่านี้จากสวรรค์ได้ ผ่านการอธิษฐานกับพระเจ้า
ถ้าเราเข้าใจเรื่องการอธิษฐานอย่างถูกต้อง การอธิษฐานจะเป็นโอกาสและสิทธิพิเศษในการเข้าเฝ้าพระเจ้า
การอธิษฐานจะไม่ใช่ยาขม หรือสิ่งที่เราจำทนต้องทำอีกต่อไป

1.3 การอธิษฐานทำให้เราได้รับกำลัง
ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์                                                                 -3-                                                                 โดย ศจ.นิรุทธิ์  จันทร์ก้อน

กจ.1:8                     แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก
การอธิษฐานทำให้เราได้รับกำลังจากพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาอยู่เหนือเรา เมื่อเราอธิษฐาน
และเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์มาอยู่เหนือเรา เราจะรับฤทธิ์เดช กำลังและพลังฝ่ายวิญญาณ
ดังนั้น การเข้าไปสู่พลังและการเจิมของพระเจ้า จึงเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมากสำหรับชีวิตคริสเตียน

1.4 การอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง ทำให้คำอธิษฐานของเราไปถึงพระเจ้า
กจ.10:4                   และเมื่อโครเนลิอัสเขม้นดูทูตองค์นั้นด้วยความตกใจกลัว จึงถามว่า นี่เป็นประการใดพระเจ้าข้า ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า คำอธิษฐานและทานของท่านนั้น ได้ขึ้นไปเป็นเหตุให้พระเจ้าระลึกถึงแล้ว
การอธิษฐานด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คำอธิษฐานนั้นไปถึงพระเจ้า
และพระองค์จะทรงตอบเรา อย่างที่ตอบโครเนลิอัส
เมื่อเราไม่ได้อธิษฐานกับพระเจ้าอย่างต่อเนื่องด้วยความเข้าใจ ทำให้คำอธิษฐานของเราไปไม่ถึงพระเจ้า
วว.8:4                     และควันเครื่องหอมนั้นก็ลอยขึ้นไปพร้อมกับคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งหลาย จากมือทูตสวรรค์สู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า
การอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง คำอธิษฐานนั้นจะลอยไปเป็นควันหอมต่อพระพักตร์พระเจ้า
แต่ต้องเป็นคำอธิษฐานที่ถูกต้อง ด้วยการเข้าใจว่าเราเป็นลูกพระเจ้าและการอธิษฐานนั้นเป็นสิทธิพิเศษจากสวรรค์
เมื่ออธิษฐาน ร่างกายของเราอยู่ในโลก แต่จิตวิญญาณของเราไปถึงพระเจ้า เป็นพลังมหาศาล

1.5 มารจะพยายามขัดขวางการอธิษฐานของเรา
มารไม่อยากให้ใครอธิษฐานกับพระเจ้า เพราะเมื่อเกิดการอธิษฐานจะเป็นเหมือนการเปิดสวิตซ์ไฟต่อกับพระเจ้า
เป็นการชาร์ตแบตเตอร์รี่ เป็นการรับกำลังฝ่ายวิญญาณ
ดนล.10:13             เจ้าผู้พิทักษ์ราชอาณาจักรเปอร์เซียได้ขัดขวางข้าพเจ้าไว้ถึงยี่สิบเอ็ดวัน แต่มีคาเอล เจ้าผู้พิทักษ์ชั้นหัวหน้าผู้หนึ่งมา ช่วยข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงละท่านไว้ที่นั่นให้อยู่กับเจ้าผู้พิทักษ์ราชอาณาจักรเปอร์เซีย
อย่างที่พระธรรมเอเฟซัสได้กล่าวแล้วว่า เราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือดแต่เราต่อสู้กับเทพผู้ครอง ฯลฯ
เจ้าผู้พิทักษ์ราชอาณาจักรเปอร์เซีย เป็นวิญญาณที่ครอบครองอยู่เหนืออาณาจักรเปอร์เซียได้ยับยั้งคำอธิษฐานของดาเนียล
พระเจ้าต้องส่งทูตสวรรค์มีคาเอลไปช่วย
ในยุคนี้พระเจ้าอยู่กับเราทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเราอธิษฐานแม้จะเจอการขัดขวางของมารซาตาน
แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยให้เราชนะสงครามฝ่ายวิญญาณนี้ โดยการอธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ ซึ่งเป็นภาษาใจ
ร่วมกับการอธิษฐานด้วยภาษาความคิด คือ ภาษาต่างๆ ของมนุษย์

2. ภาพรวมของภาษาแปลกๆ หรือภาษาสวรรค์
2.1 ภาษาแปลกๆ เป็นหมายสำคัญอย่างหนึ่งที่พระเจ้าจะประทานให้เมื่อเกิดความเชื่อ
มก.16:17                                มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ
การอธิษฐานด้วยภาษาของมนุษย์ (ภาษาความคิด) ร่วมกับภาษาแปลกๆ (ภาษาใจ)
รวมกับจิตใจที่แสวงหาพระเจ้า คำอธิษฐานนั้นจะทะลุทะลวงมารซาตาน รวมทั้งทะลุทะลวงเนื้อหนังของเราด้วย
เราจะสามารถเอาชนะมาร และเอาชนะตัวเองได้

ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์                                                                 -4-                                                                 โดย ศจ.นิรุทธิ์  จันทร์ก้อน

2.2 ภาษาแปลกๆ เป็นภาษาฝ่ายวิญญาณ เป็นภาษาสวรรค์
1คร.14:2                 เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใด ที่พูดภาษาแปลกๆได้ ไม่ได้พูดกับมนุษย์ แต่ทูลต่อพระเจ้า เพราะว่าไม่มีมนุษย์คนใดเข้าใจได้ แต่เขาพูดเป็นความล้ำลึกฝ่ายพระวิญญาณ
ภาษาแปลกๆ เป็นภาษาฝ่ายวิญญาณ เป็นภาษาสวรรค์
เมื่อมีการพูดภาษาแปลกๆ ไม่ได้เป็นการพูดกับมนุษย์ แต่เป็นการพูดกับพระเจ้า
ภาษาแปลกๆ ไม่มีคำแปล ไม่มีดิกชันนารีเล่มไหนสามารถแปลเป็นภาษาของมนุษย์ได้
พระเจ้าประทานภาษาแปลกๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการอธิษฐานของคริสเตียน
เนื่องจากภาษาแปลกๆ นี้ มนุษย์ด้วยกันไม่สามารถฟังได้รู้เรื่อง และที่สำคัญมารซาตานก็ฟังไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน
เมื่อเราจะอธิษฐานเผื่อใคร เกี่ยวกับเรื่องไม่ดีในตัวเขาก็ให้ใช้ภาษาแปลกๆ (เพราะผู้นั้นจะไม่เข้าใจ)
เมื่อเราจะอธิษฐานบางเรื่องที่ไม่อยากให้มารรู้และไม่สามารถขัดขวางในเรื่องนั้นๆ ได้ ให้ใช้ภาษาแปลกๆ
ภาษาแปลกๆ เป็นภาษาสวรรค์ เป็นภาษาใจที่พระเจ้าเท่านั้นสามารถรับรู้ได้ว่าหมายความว่าอย่างไร

1คร.14:14               เพราะถ้าข้าพเจ้าอธิษฐานเป็นภาษาแปลกๆใจของข้าพเจ้าอธิษฐานก็จริง แต่ความคิดก็ไม่เป็นประโยชน์
ภาษาแปลกๆ เป็นภาษาใจ ไม่ใช่ภาษาความคิด
ภาษาความคิด คือ ต้องคิดก่อนจึงจะเปล่งคำพูดออกมาได้
การอธิษฐานโดยภาษาความคิด คือ การอธิษฐานโดยภาษาต่างๆ ของมนุษย์ เช่น ไทย จีน อังกฤษ เกาหลี เป็นต้น
แต่ภาษาแปลกๆ เป็นการใช้ใจอธิษฐาน ... เป็นภาษา มีเสียง แต่ความคิดไม่มีประโยชน์อะไรในช่วงเวลานี้
เป็นความล้ำลึกที่เราทูลต่อพระเจ้า

2คร.12:2-4             ข้าพเจ้าได้รู้จักชายคนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระคริสต์สิบสี่ปีมาแล้ว เขาถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่สาม (แต่จะไปทั้งกายหรือไปโดยไม่มีกายข้าพเจ้าไม่รู้ พระเจ้าทรงทราบ) ข้าพเจ้าทราบ (แต่จะไปทั้งกายหรือไม่มีกายข้าพเจ้าไม่รู้ พระเจ้าทรงทราบ) ว่าคนนั้นถูกรับขึ้นไปยังเมืองบรมสุขเกษม และได้ยินวาจาซึ่งจะพูดเป็นคำไม่ได้ และมนุษย์จะออกเสียงก็ต้องห้าม
เมื่อเปาโล ถูกรับขึ้นไปสวรรค์ทั้งๆ ที่เป็นอยู่ ทำให้เห็นว่าบนสวรรค์ก็ใช้ภาษาสวรรค์ ไม่ใช่ภาษาของโลกนี้
เป็นภาษาที่มีเสียง เปาโลได้ยิน แต่พูดเป็นคำไม่ได้

การพูดภาษาแปลกๆ ซึ่งเป็นภาษาสวรรค์นี้ ก็มีข้อควรระวังในการใช้เช่นเดียวกัน
คือ เราควรพูดเป็นภาษาแปลกๆ ในเวลาส่วนตัว ไม่ใช่พูดภาษาแปลกๆ ในที่ประชุม
1คร.14:18-19         ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้า ข้าพเจ้าพูดภาษาแปลกๆมากกว่าท่านทั้งหลายอีก แต่ว่าในคริสตจักรข้าพเจ้าพอใจที่จะพูดสักห้าคำด้วยความคิด เพื่อเป็นคติแก่คนอื่นดีกว่าที่จะพูดหมื่นคำเป็นภาษาแปลกๆ
เปาโล พูดภาษาแปลกๆ เพื่อรับกำลังจากพระเจ้าในการอธิษฐานส่วนตัว
แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องพูดในที่ประชุม ท่านใช้คำพูดภาษาความคิด คือ พูดภาษาต่างๆ ในโลกเพื่อให้มนุษย์เข้าใจได้

3. องค์ประกอบในการพูดภาษาแปลกๆ
การพูดภาษาแปลกๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้รับกำลังฝ่ายวิญญาณจากพระเจ้า
ถึงกระนั้น การที่เราจะพูดหรืออธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ ได้ก็จำเป็นต้องมีองค์ประกอบต่างๆ ด้วย
3.1 ต้องพูดด้วยความเชื่อ
มก.16:17                                มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ
ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์                                                                 -5-                                                                 โดย ศจ.นิรุทธิ์  จันทร์ก้อน

มีคนเชื่อที่ไหน มีความเชื่อที่ไหน หมายสำคัญจะเกิดขึ้น ทั้งการขับผีออกได้ และการพูดภาษาแปลกๆ
ความเชื่อในที่นี้ หมายถึง การเชื่อฟังพระเจ้า และพูดด้วยความเชื่อของเขา
สิ่งที่ต้องเน้น คือ ประสบการณ์ในการพูดภาษาแปลกๆ ของแต่ละคนจะแตกต่างกัน
เราไม่สามารถนำประสบการณ์ของใครมาเป็นมาตรฐานในการพูดภาษาแปลกๆ ได้
เมื่อใดที่เรามีความเชื่อในพระเจ้า และกล้าที่จะพูดด้วยความเชื่อ เมื่อนั้นเราจะมีประสบการณ์เป็นของตัวเอง

3.2 ต้องพูดด้วยความเข้าใจ
1คร.14:2                 เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใด ที่พูดภาษาแปลกๆได้ ไม่ได้พูดกับมนุษย์ แต่ทูลต่อพระเจ้า เพราะว่าไม่มีมนุษย์คนใดเข้าใจได้ แต่เขาพูดเป็นความล้ำลึกฝ่ายพระวิญญาณ
1คร.14:14               เพราะถ้าข้าพเจ้าอธิษฐานเป็นภาษาแปลกๆใจของข้าพเจ้าอธิษฐานก็จริง แต่ความคิดก็ไม่เป็นประโยชน์
เป็นการพูดด้วยความเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องใช้ความคิด เพราะไม่ใช่ภาษาคิด
เราทุกคนคงมีประสบการณ์ที่อยากจะอธิษฐานและอยู่กับพระเจ้านานๆ แต่หมดคำพูดในภาษาของมนุษย์
เมื่อนั้นแหละที่เราต้องพึ่งพาภาษาแปลกๆ ภาษาใจ เพื่อจะอยู่กับพระเจ้าได้นานขึ้น
เมื่อเราพูดภาษาแปลกๆ พระเจ้าจะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร

3.3 เมื่อพูดภาษาแปลกๆ ต้องนึกถึงพระลักษณะของพระเจ้า
การอธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ เป็นภาษาสวรรค์ ดังนั้น เมื่ออธิษฐานภาษาสวรรค์ เราต้องนึกถึงเจ้าของสวรรค์ คือ พระเจ้า
อธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ และในใจนึกถึงพระลักษณะอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่เรานึกถึงนั้น จะอยู่กับเราและตอบต่อคำอธิษฐานของเรา
ตัวอย่างพระลักษณะของพระเจ้าจากพระวจนะ
1ทธ.6:15-16           ซึ่งพระเจ้าผู้เสวยสุขและทรงฤทธิ์สูงสุดแต่พระองค์เดียว พระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง และพระผู้เป็นเจ้าเหนือเทพเจ้าทั้งปวง จะทรงสำแดงให้ปรากฏในเวลาอันควรพระองค์ผู้เดียวทรงอมตะ และทรงสถิตในความสว่างที่ซึ่งไม่มีคนใดจะเข้าไปถึง ผู้ซึ่งมนุษย์ไม่เคยเห็น และจะเห็นไม่ได้ พระเกียรติและฤทธานุภาพอันถาวรจงมีแด่พระองค์นั้น อาเมน
พระเจ้าผู้เสวยสุข, พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์สูงสุด, พระเจ้าผู้ทรงเป็นมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง
พระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าเหนือเทพเจ้าทั้งปวง และพระเจ้าผู้ทรงอมตะ ... นี่คือพระลักษณะพระเจ้า

กจ.17:24-26           พระเจ้าผู้ทรงสร้างโลกกับสิ่งทั้งปวงที่มีอยู่ในนั้น พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก มิได้ทรงสถิตในปูชนียสถานซึ่งมือมนุษย์ได้กระทำไว้ พระองค์มิจำต้องให้มือมนุษย์มาปรนนิบัติ ดังว่ามีความต้องการสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานชีวิตและลมหายใจ และสิ่งสารพัดแก่คนทั้งปวงต่างหาก พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ทุกชาติ สืบสายโลหิตอันเดียวกันให้อยู่ทั่วพิภพโลก และได้ทรงกำหนดเวลาและเขตแดนให้เขาอยู่
นี่เป็นพระวจนะอีกตอนที่ทำให้เราเห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้า

3.4 เมื่อพูดภาษาแปลกๆ ต้องคิดถึงพระสัญญาของพระเจ้า
การอธิษฐานด้วยภาษาแปลกๆ นั้น ไม่ใช่อธิษฐานอย่างเพ้อเจ้อ และไม่เพียงต้องนึกถึงพระลักษณะของพระเจ้าเท่านั้น
แต่เรายังต้องคิดถึงบรรดาพระสัญญาต่างๆ ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับผู้เชื่อด้วย
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในชีวิตของเรา ต้องอธิษฐานด้วยการอ้างพระสัญญา
ตัวอย่างพระสัญญาของพระเจ้า
ยน.10:28                                เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้นแกะนั้นจะไม่พินาศเลยและจะไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้
ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์                                                                 -6-                                                                 โดย ศจ.นิรุทธิ์  จันทร์ก้อน

เมื่อเราเกิดความกลัวว่าจะผิดพลาด ล้มเหลว หรือพินาศ
ต้องอ้างสัญญา เพราะพระเจ้าสัญญาว่าแกะของพระเจ้าจะไม่พินาศเลย
สดด.23:4                แม้ข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระ องค์ คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์
เมื่อเราต้องเดินอยู่ในหุบเขาเงามัจจุราช เต็มไปด้วยปัญหา
ต้องอ้างสัญญา เพราะพระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะทรงสถิตอยู่ด้วย และจะช่วยเราเสมอ

3.5 เราสามารถพูดภาษาแปลกๆ ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกสถานการณ์
เราสามารถใช้ภาษาแปลกๆ ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่และทุกสถานการณ์
ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคที่จะขัดขวางการอธิษฐานของเราได้
เพียงแต่เราจะใช้ภาษาแปลกๆ ได้ง่ายที่สุด คือ ใช้ในการนมัสการและการอธิษฐาน
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีคำแปล แต่เป็นคำที่พระเจ้าสามารถเข้าใจเราได้
1ธส.5:17                 จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ

3.6 การพูดภาษาแปลกๆ ในการนมัสการ เป็นการแสดงถึงความผูกพันกับพระเจ้า
การผูกพันกับพระเจ้าที่เป็นรูปธรรม คือ การที่เราอธิษฐานกับพระเจ้าเสมอทุกเวลา
ไม่ใช่เวลาที่อยู่โบสถ์เท่านั้น แต่เวลาส่วนตัวเราต้องจัดให้กับพระเจ้าด้วย
สดด.91:14              เพราะเขาผูกพันกับเราด้วยความรัก เราจะช่วยกู้เขา เราจะป้องกันเขาไว้ เพราะเขารู้จักนามของเรา
การผูกพันกับพระเจ้า ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์และความรู้สึก แต่ต้องเป็นพฤติกรรมที่แสดงออก
ความรักที่ไม่แสดงออก ถือเป็นการฆาตกรรม
ความรักของเราต้องแสดงออก เป็นการใส่ใจความรู้สึก เป็นการพูดคุย
รักพระเจ้า ต้องพูดคุยกับพระเจ้า ต้องสนทนากับพระเจ้า
พระพรของการผูกพันตัวกับพระเจ้า มี 8 ประการ
สดด.91:14-16        เพราะเขาผูกพันกับเราด้วยความรัก เราจะช่วยกู้เขา เราจะป้องกันเขาไว้ เพราะเขารู้จักนามของเรา เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก เราจะช่วยเขาให้พ้นและให้เกียรติเขา เราจะให้เขาอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว และสำแดงความรอดของเราแก่เขา
(1) พระเจ้าจะช่วยกู้เรา
(2) พระเจ้าจะป้องกันเรา
(3) เมื่อเราร้องทูลพระเจ้าจะตอบ
(4) พระเจ้าจะอยู่กับเราในยามยากลำบาก
(5) พระเจ้าจะช่วยเราให้พ้น
(6) พระเจ้าจะให้เกียรติเรา
(7) พระเจ้าจะให้เราอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว
(8) พระเจ้าจะสำแดงความรอดแก่เรา

3.7 เมื่ออธิษฐานต่อเนื่อง คำอธิษฐานของเราจะไปถึงพระเจ้า
กจ.10:4,30-31        และเมื่อโครเนลิอัสเขม้นดูทูตองค์นั้นด้วยความตกใจกลัว จึงถามว่า "นี่เป็นประการใดพระเจ้าข้า" ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า "คำอธิษฐานและทานของท่านนั้น ได้ขึ้นไปเป็นเหตุให้พระเจ้าระลึกถึงแล้ว, โครเนลิอัสจึงตอบว่า "สี่วันมาแล้ว

ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์                                                                 -7-                                                                 โดย ศจ.นิรุทธิ์  จันทร์ก้อน

ข้าพเจ้าได้อธิษฐานอยู่ในตึกของข้าพเจ้า ราวเวลานี้เอง คือบ่ายสามโมง มีคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าสวมเสื้อมันระยับผู้นั้นได้กล่าวว่า "โครเนลิอัสเอ๋ย คำอธิษฐานของท่านนั้นพระเจ้าทรงสดับฟังแล้ว และทานของท่านนั้นก็เป็นเหตุให้พระเจ้าทรงระลึกถึง
การอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นเวลานานด้วยความรักและผูกพันกับพระเจ้า
คำอธิษฐานนั้นจะไปถึงพระเจ้า และเป็นเหตุให้พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเรา
เรื่องของการอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง ต้องยกให้ประเทศเกาหลีใต้ เขามีภูเขาอธิษฐานที่ผู้เชื่อเวียนกันมาอธิษฐาน
ตลอดวันตลอดคืนไม่หยุดหย่อน ... ถ้าเราเป็นพระเจ้าเราก็ต้องตอบเขา
ด้วยเหตุนี้ เกาหลีใต้จึงมีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้านอย่างรวดเร็ว เพราะคำอธิษฐานของเขาไปถึงพระเจ้า

3.8 การอธิษฐาน ทำให้ชีวิตเราจะมีพลัง
การอธิษฐาน ทำให้ชีวิตเรามีพลัง สามารถเอาชนะในสงครามฝ่ายวิญญาณได้
อฟ.3:20                  ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ กระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เราจะทูลขอหรือคิดได้ ตามฤทธิ์เดชที่ประกอบกิจอยู่ภายในตัวเรา
การอธิษฐาน ทำให้เราได้มากกว่าที่เราขอหรือคิดได้
พระเจ้าจะกระทำงานของพระองค์ผ่านคำอธิษฐานของเรา
ยน.14:20                                ในวันนั้นท่านทั้งหลายจะรู้ว่าเราอยู่ในพระบิดา และท่านอยู่ในเราและเราอยู่ในท่าน
สิ่งเดียวที่พาเราไปอยู่ในพระเจ้าได้ คือ การอธิษฐาน
การนมัสการและอธิษฐานตลอดเวลา จะทำให้เราอยู่ในพระเยซูและพระเยซูอยู่ในเรา

ทั้งหมดเป็นเพียงภาพรวมแบบกว้างๆ เท่านั้น ที่ทำให้เรามองภาพของการอธิษฐานและภาษาแปลกๆ ได้เข้าใจขึ้น
ยังมีเรื่องราวของพระเจ้าอีกมากมายให้เราต้องเรียนรู้ทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องภาษาแปลกๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคริสเตียน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อได้อ่านแล้วเราจะเข้าใจมากขึ้น เพราะการเข้าใจมากขึ้น ทำให้เราเข้าถึงพระเจ้าได้มากขึ้นเช่นกัน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น