วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรื่อง “ พระลักษณะพระเจ้า ” ตอน “ กษัตริย์เหนือกษัตริย์ ” จาก “ 1ทธ.6:15-16 ”

คำเทศนา อาทิตย์ที่ 12 ก.ค. 09 รอบบ่าย                                              -1-                                                             โดย ศจ.นิรุทธิ์   จันทร์ก้อน


เรื่อง พระลักษณะพระเจ้า ตอน  กษัตริย์เหนือกษัตริย์
จาก 1ทธ.6:15-16 ”

                1ทธ.6:15-16           ซึ่งพระเจ้าผู้เสวยสุขและทรงฤทธิ์สูงสุดแต่พระองค์เดียว พระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง และพระผู้เป็นเจ้าเหนือเทพเจ้าทั้งปวง จะทรงสำแดงให้ปรากฏในเวลาอันควร พระองค์ผู้เดียวทรงอมตะ และทรงสถิตในความสว่างที่ซึ่งไม่มีคนใดจะเข้าไปถึง ผู้ซึ่งมนุษย์ไม่เคยเห็น และจะเห็นไม่ได้ พระเกียรติและฤทธานุภาพอันถาวรจงมีแด่พระองค์นั้น อาเมน

พระลักษณะของพระเจ้าในตอนนี้ พระองค์ทรงเป็น กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง

            เพราะพระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ พระองค์จึงทรงครอบครองอยู่เหนือกษัตริย์ทั้งโลก ความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ทั้งโลกมารวมกันก็ไม่เท่ากับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พระเจ้าอยู่เหนือกษัตริย์ทุกพระองค์ และกษัตริย์ทุกพระองค์ต้องกราบนมัสการพระเจ้า

ฟป.2:10-11            เพื่อเพราะพระนามนั้น ทุกเข่า ในสวรรค์ ที่แผ่นดินโลก ใต้พื้นแผ่นดินโลก จะคุกลงกราบ พระเยซู และเพื่อ ทุกลิ้นจะยอมรับ ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า อันเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระบิดาเจ้า

                ถ้าเราเข้าใจ เข้าถึงพระลักษณะของพระองค์ เราจะไม่กลัวสิ่งใด เว้นไว้แต่ความเคารพ ยำเกรงพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ และเราเป็นองค์ทายาทของพระองค์

1. พระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์

อสย.9:7                  เพื่อการปกครองของท่านจะเพิ่มพูนยิ่งขึ้น และสันติภาพจะไม่มีที่สิ้นสุด เหนือพระที่นั่งของดาวิด และเหนือราช อาณาจักรของพระองค์ ที่จะสถาปนาไว้ และเชิดชูไว้ ด้วยความยุติธรรมและด้วยความชอบธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้น ไปจนนิรันดรกาล ความกระตือรือร้นของพระเจ้าจอมโยธาจะกระทำการนี้


ดนล.7:14               ราชอำนาจ ศักดิ์ศรี กับราชอาณาจักร เขานำมามอบไว้กับท่าน เพื่อบรรดาชนชาติ ประชาชาติทั้งปวง และภาษา ทั้งหลายจะปรนนิบัติท่าน ราชอาณาจักรของท่านเป็นราชอาณาจักรนิรันดร์ ซึ่งจะไม่สิ้นสุดไป และแผ่นดินของท่าน เป็นแผ่นดิน ซึ่งจะไม่ถูกทำลายเลย
               
มธ.6:9,13                ท่านทั้งหลาย จงอธิษฐานตามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ, และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้พ้นจากซึ่งชั่วร้าย {หรือ มารร้าย} [เหตุว่าราชอำนาจ และฤทธิ์เดช และพระสิริเป็นของพระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์ อาเมน]

มธ.21:9                   ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้า กับผู้ที่ตามมาข้างหลัง ก็พร้อมกันโห่ร้องว่า "โฮซันนา {ในที่นี้ใช้เป็นคำสรรเสริญ} แก่ราชโอรสของดาวิด ขอให้ท่านผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงพระเจริญโฮซันนา ในที่สูงสุด"

มธ.25:31-34           เมื่อบุตรมนุษย์ทรงพระสิริเสด็จมากับทั้งหมู่ทูตสวรรค์เมื่อนั้นพระองค์จะประทับบนพระที่นั่งอันรุ่งเรืองของพระองค์บรรดาประชาชาติต่างๆจะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็นสองพวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะจะแยกแกะออกจากแพะส่วนฝูงแกะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ แต่ฝูงแพะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องซ้ายขณะนั้น พระมหากษัตริย์จะตรัสแก่บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ว่า "ท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักร ซึ่งได้ตระเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก


คำเทศนา อาทิตย์ที่ 12 ก.ค. 09 รอบบ่าย                                              -2-                                                             โดย ศจ.นิรุทธิ์   จันทร์ก้อน


ลก.1:32-33          บุตรนั้นจะเป็นใหญ่ และจะทรงเรียกว่าเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระเจ้าจะทรงประทานพระที่นั่งของดาวิดบรรพบุรุษของท่านให้แก่ท่านและท่านจะครอบครองพงศ์พันธุ์ของยาโคบสืบไปเป็นนิตย์ และแผ่นดินของท่านจะไม่รู้จักสิ้นสุดเลย"

ยน.18:37                                ปีลาตจึงทูลพระองค์ว่า "ถ้าเช่นนั้นท่านก็เป็นกษัตริย์น่ะซี" พระเยซูตรัสตอบว่า "ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์ เพราะเหตุนี้เราจึงเกิดมาและเข้ามาในโลกเพื่อเป็นพยานให้แก่สัจจะ คนทั้งปวงซึ่งอยู่ฝ่ายสัจจะย่อมฟังเสียงของเรา"


1คร.15:23-27         แต่ว่าจะเป็นไปตามลำดับ คือพระคริสต์ทรงเป็นผลแรก แล้วภายหลังก็คือคนทั้งหลายที่เป็นของพระคริสต์ ในเมื่อพระองค์เสด็จมา ต่อจากนั้นจะเป็นวาระที่สุด บัดนั้นพระคริสต์จะทรงมอบแผ่นดินไว้แก่พระบิดาเจ้า เมื่อพระองค์จะได้ทรงทำลายเทพผู้ครอง ศักดิเทพและอิทธิเทพหมดแล้ว เพราะว่าพระองค์จะต้องทรงปกครองอยู่ก่อน จนกว่าพระองค์จะได้ทรงปราบศัตรูทั้งสิ้นให้อยู่ใต้พระบาทของพระองค์ศัตรูตัวสุดท้ายที่พระองค์จะทรงทำลายนั้นก็คือความตายเพราะว่าพระองค์ทรงปราบสิ่งสารพัดลงใต้พระบาทของพระองค์แล้ว แต่เมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่าทรงปราบสิ่งสารพัดลงนั้น ก็เป็นที่ทราบชัดว่า ยกเว้นองค์พระเจ้าผู้ทรงปราบสิ่งสารพัดให้อยู่ใต้พระองค์


วว.11:15                 และทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดก็เป่าแตรขึ้น และมีเสียงหลายๆเสียงกล่าวขึ้นดังๆในสวรรค์ว่า "ราชอาณาจักรแห่งพิภพนี้ ได้กลับเป็นราชอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเป็นของพระคริสต์ของพระองค์ และพระองค์จะทรงครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์ "

พระวจนะเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึง พระลักษณะของพระเจ้า ในด้านของกษัตริย์เหนือกษัตริย์

เมื่อเราเข้าใจ เราจะไม่หลงทาง แต่เราจะยิ่งตระหนักว่าเรามาถูกทาง เราเชื่อในพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่สูงสุด
เราเป็นลูกกษัตริย์ เราเป็นลูกพระเจ้า เราจะเป็นเหมือนพระองค์

2. กษัตริย์เหนือกษัตริย์ เล็งถึง นักปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
กษัตริย์ คือ ต้นกำเนิดของชาติ คือ แม่ทัพ
กษัตริย์ เล็งถึง นักปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

2.1 ปกครอง คือ ปกคลุม ให้ความสุข ให้ความเจริญ ให้ร่มเงา ให้ความปลอดภัย
สุภาษิตโบราณว่า ดินดีเพราะหญ้าปก ป่ารกเพราะเสือยัง เสือยังเพราะป่าบัง หญ้ายังเพราะดินดี
ปก เล็งถึง ความสุข ความเจริญ ให้ร่มเงา
ใครเข้าสู่การปกครอง เข้าสู่การปกคลุมของพระเจ้า ผลคือ เจริญ เป็นสุข มีความร่มเย็น

แต่ปัญหาของมนุษย์ คือ เรามักจะออกนอกจากปกครองของพระเจ้า
พระเจ้าใคร่จะปกครอง ปกคลุมเรา ป้องกันเราจากอันตราย
ออกจากการปกคลุมของพระเจ้า ก็เข้าสู่อันตรายจากการโจมตีของมาร
ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญกับพระเจ้า ก็เท่ากับเราไม่ให้ความสำคัญแก่ตัวเราเอง
มธ.23:37                 โอ เยรูซาเล็มๆที่ได้ฆ่าบรรดาผู้เผยพระวจนะ และเอาหินขว้างผู้ที่รับใช้มาหาเจ้าถึงตาย เราใคร่จะรวบรวมลูกของเจ้าไว้เนืองๆ เหมือนแม่ไก่กกลูกอยู่ใต้ปีกของมัน แต่เจ้าไม่ยอมเลยหนอ

การปกครอง เริ่มต้นจากการปกคลุม พระเจ้าสอนเราเรื่องชีวิต

คำเทศนา อาทิตย์ที่ 12 ก.ค. 09 รอบบ่าย                                              -3-                                                             โดย ศจ.นิรุทธิ์   จันทร์ก้อน


อยากได้ชีวิต ต้องให้ชีวิต อยากปกครอง ต้องปกป้องก่อน
พระเจ้าเป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ใครอยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์ ก็ร่มเย็น เป็นสุข

ก. ในการปกครอง มีการปกคลุม
อสย.6:1                  ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับ ณ พระที่นั่งสูงและเทิดทูนขึ้น และชาย ฉลองพระองค์ของพระองค์เต็มพระวิหาร
ฉลองพระองค์ของพระองค์เต็มพระวิหาร เล็งถึง การปกครองของพระเจ้า ครอบคลุมอย่างทั่วถึง
ในการปกครอง มีการปกคลุม ต้องปกป้องก่อน จึงจะปกครองได้ ต้องให้ชีวิตก่อน จึงจะได้ชีวิต
พระเจ้าเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ พระองค์ปกครองด้วยการปกคลุมมนุษย์อย่างทั่วถึง
พระองค์ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง
พระองค์ทรงให้ชีวิต ให้ความอบอุ่น ให้แรงบันดาลใจ ให้ความหวังดี
เพราะพระเจ้าทรงให้เรา เราจึงยอมให้พระองค์ปกครองชีวิต
หากเราอยากจะมีอิทธิพลกับชีวิตของผู้ใด เราต้องให้ผู้นั้นก่อน
ให้ความอบอุ่น ให้ความเป็นมิตร เราจะได้รับความเป็นมิตรกลับมา

ข. พระเจ้าปกคลุมเรา ด้วยการให้สัจธรรมความจริง
ยน.14:6                  พระเยซูตรัสกับเขาว่า เราเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา
ยน.8:32                  และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท
การปกครองที่ก่อให้เกิดความร่มเย็น ต้องยึดความจริงด้วยใจรัก
พระเจ้าปกคลุมเราด้วยการให้สัจธรรมความจริง
พระเจ้า ใส่ใจ แต่ ไม่ตามใจ เรา ... เพราะพระเจ้าไม่ต้องการให้เราเสียคน
อยากให้ใครเสียคน ก็ง่ายนิดเดียว คือ ตามใจเขาให้มาก แต่พระเจ้าไม่ทรงทำเช่นนั้น
พระเจ้าต้องการให้เราเข้าใจความจริง เมื่อเราเข้าใจความจริง เราก็เป็นไท
ความสงบของชีวิตเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เพราะการสวดมนต์ แต่เกิดขึ้นได้ เพราะความเข้าใจ
พระเจ้าจะปกครองเราได้ ต้องสอนให้เราเข้าสู่ความจริง
การเป็นไท จะเป็นหนทางในการเกิดผล

ค. การปกคลุมที่ยิ่งใหญ่ ต้องให้ร่มเงา ให้ร่มเย็น ให้การปกป้องจากภัย
สดด.91:1-10          ผู้ที่อาศัยอยู่ ณ ที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด ผู้อยู่ในร่มเงาของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์จะทูลพระเจ้าว่า "ที่ลี้ภัยของข้าพระองค์และป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ที่ข้าพระองค์ไว้ วางใจ"เพราะพระองค์จะทรงช่วยกู้ตัวท่านจากกับของพรานนก และจากโรคภัยอย่างร้ายแรงนั้นพระองค์จะทรงปกท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์ และท่านจะลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์ ความสัตย์สุจริตของพระองค์ เป็นโล่และเป็นดั้งท่านจะไม่กลัวความสยดสยองในกลางคืน หรือกลัวลูกธนูที่ปลิวไปในกลางวันหรือโรคภัยที่ไล่มาในความมืด หรือโรคซึ่งทำลายในเที่ยงวันพันคนจะล้มอยู่ที่ข้างๆ ท่าน หมื่นคนที่มือขวาของท่าน แต่ภัยนั้นจะไม่มาใกล้ท่านท่านจะมองดูด้วยตาเท่านั้น และเห็นการตอบแทนแก่คนอธรรมเพราะท่านได้กระทำให้พระเจ้าผู้เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า คือองค์ผู้สูงสุด เป็นที่อยู่ของท่านไม่มีการร้ายใดๆ จะตกมาบนท่าน ไม่มีภัยมาใกล้เต็นท์ของท่าน
การอาศัยอยู่ ณ ที่กำบังของพระเจ้า การอยู่ในร่มเงาของพระองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์
เราได้รับร่มเงา รับการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย และอันตราย

คำเทศนา อาทิตย์ที่ 12 ก.ค. 09 รอบบ่าย                                              -4-                                                             โดย ศจ.นิรุทธิ์   จันทร์ก้อน


พระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ พระบารมีของพระองค์แผ่ไพศาล
หลักของการปกครอง คือ การปกคลุม
เราอยู่ใต้หลังคา เราเย็น แต่หลังคารับความร้อน เพราะมันบังแทนเรา
พระเจ้ารับแทนเราทุกอย่างที่เราจะต้องเจอ
สอนเราให้เราทำกับผู้อื่น อย่างที่พระองค์ทรงกระทำกับเรา
เช่น เราต้องเจ็บ เพื่อให้คนอื่นหายเจ็บ แม้เราไม่มีในหลายสิ่ง แต่สิ่งที่เรามีอยู่ เราควรให้ออกไป เพื่อเป็นพร

ง. พระเจ้าปกคลุมเรา ด้วยการให้ชีวิตและป้องกันเราจากความพินาศ
ยน.10:28                                เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้นแกะนั้นจะไม่พินาศเลยและจะไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้
พระเยซู เป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่
พระองค์ให้ชีวิตนิรันดร์แก่เรา คือ สุขนิรันดร์ สงบนิรันดร์ สะอาดนิรันดร์ สว่างนิรันดร์
ที่สำคัญที่สุด พระองค์จะปกป้องชีวิตเราจากความพินาศ
จะไม่มีอะไร สิ่งใด พรากเราไปจากพระเจ้า และทำให้ชีวิตของเราเสียหายได้
ตราบใดที่เราอยู่ในการปกคลุมของพระเจ้า

ลก.10:19                                ดูเถิด เราได้ให้พวกท่านมีอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศัตรู ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ท่านได้เลย
พระเจ้าทรงให้อำนาจแก่เรา พระเจ้าทรงปกคลุมเรา ไม่ให้มีสิ่งใดหรืออะไรทำอันตรายแก่เราได้

จ. พระเจ้าทรงปกคลุมเราด้วยความห่วงใย แม้ในเรื่องเล็กน้อย
ลก.12:7                  ถึงผมของท่านทั้งหลายก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น อย่ากลัวเลยท่านทั้งหลายก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว
การปกคลุมของพระเจ้า เล็งถึง ความห่วงใยที่พระเจ้ามีต่อเราด้วย
ผมของเราทุกเส้น พระเจ้าทรงนับไว้หมดแล้ว
นับไว้แล้วทุกเส้น คือ เจาะจง ไม่มองผ่าน
แต่ละปัญหาของเรา พระเจ้ารับรู้ พระเจ้าเห็น และพระองค์ทรงใส่พระทัย
พระเจ้าเป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ ที่ให้ความอบอุ่นและร่มเย็นแก่ชีวิตของเรา
ขอเพียงเราทำสุดกำลังของเรา ตราบนั้น เราจะเข้าสู่กำลังของพระเจ้าอย่างแน่นอน

2.2 ปกครอง คือ บริหารอย่างยอดเยี่ยมและเที่ยงธรรมที่สุด
พระลักษณะของความเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์นั้น ไม่ได้หมายถึง การปกลุมให้อบอุ่นร่มเย็นเท่านั้น
แต่พระเจ้ายังทรงเป็นนักบริหารที่ยอดเยี่ยมและเที่ยงธรรมที่สุดด้วย
ฮบ.6:10                  เพราะว่าพระเจ้าไม่ทรงอธรรม ที่จะทรงลืมการงานซึ่งท่านได้กระทำ เพราะความรักที่ท่านมีต่อพระนามของพระองค์ คือการรับใช้ธรรมิกชนนั้น ดังที่ท่านยังรับใช้อยู่
ใครก็ตามที่เดินตามพระเจ้า จะได้ดีอย่างแน่นอน เพราะพระเจ้าทรงเป็นองค์ยุติธรรมและเที่ยงตรง

ก. พระเจ้าจะแบกการปกครองไว้ที่บ่าของพระองค์
อสย.9:6                  ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน และท่าน จะเรียกนามของท่านว่า "ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช"

คำเทศนา อาทิตย์ที่ 12 ก.ค. 09 รอบบ่าย                                              -5-                                                             โดย ศจ.นิรุทธิ์   จันทร์ก้อน


พระเยซูคริสต์ เกิดมาเพื่อมนุษย์อย่างแท้จริง
การปกครองจะอยู่ที่บ่าของท่าน หมายถึง พระเจ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ถ้าเราทำถูกต้องตามพระคัมภีร์ พระเจ้าจะรับผิดชอบชีวิตของเรา
แต่ถ้าเราทำผิดพระคัมภีร์ พระเจ้าไม่เกี่ยว และไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ

ความยุติธรรม ความเที่ยงธรรมของพระเจ้านั้น เราได้ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
เราต้องไม่ด่วนตัดสิน หรือใจร้อน เพราะบ่อยครั้งความยุติธรรมของพระเจ้านั้น ต้องรอนาน
แต่มันจะเป็นจริง และคงอยู่นิรันดร์
ถ้าเราให้พระคัมภีร์เป็นจริงในชีวิตเรา พระเจ้าผู้ทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ จะดูแลเราอย่างยุติธรรม

ข. พระเจ้าทรงบริหารจัดการให้ทุกคนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
(1) พระเจ้าเลือกอัครสาวก 12 คน จากคนเกือบร้อย
มก.3:14-19             แล้วพระองค์เสด็จขึ้นภูเขา และพอพระทัยจะเรียกผู้ใดพระองค์ก็ทรงเรียกผู้นั้น แล้วเขาได้มาหาพระองค์พระองค์จึงทรงตั้งศิษย์สิบสองคนไว้ให้อยู่กับพระองค์ เพื่อจะทรงใช้เขาไปประกาศและให้มีอำนาจขับผีออกได้และซีโมนนั้นพระองค์ทรงประทานชื่ออีกว่า เปโตรและยากอบบุตรเศเบดีกับยอห์นน้องของยากอบ ทั้งสองคนนี้พระองค์ทรงประทานชื่ออีกว่า โบอาเนอเย แปลว่า ลูกฟ้าร้องอันดรูว์ ฟีลิป บารโธโลมิว มัทธิว โธมัส ยากอบบุตรอัลเฟอัส ธัดเดอัส ซีโมน พรรคชาตินิยมและยูดาสอิสคาริโอท ที่ได้อายัดพระองค์ไว้นั้นพระองค์จึงเสด็จเข้าไปในเรือน               
พระเจ้าทรงเลือก 12 คน จากคนหลากหลาย
เพื่อทั้ง 12 คนนั้น จะเป็นตัวแทนและเป็นคำตอบของคนหลากหลาย
พระเจ้าพอพระทัยจะเลือกผู้ใด ก็เลือกผู้นั้น เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า
เราต้องมั่นใจในการบริหารจัดการของพระเจ้า

(2) พระเจ้าเลือก 3 จาก 12 คน ให้เป็นสาวกวงใน
มธ.17:1-2               ครั้นล่วงไปได้หกวันแล้วพระเยซูทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นน้องของยากอบขึ้นภูเขาสูงแต่ลำพังแล้วพระกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา พระพักตร์ของพระองค์ก็ทอแสงเหมือนแสงอาทิตย์ ฉลองพระองค์ก็ขาวผ่องดุจแสงสว่าง
มก.5:37                  พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ใดไปด้วย เว้นแต่เปโตร ยากอบ และยอห์นน้องชายของยากอบ
พระเจ้าทรงเป็นนักปกครอง พระเจ้าเลือก เราต้องฟัง และเคารพ
จาก 12 คน มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์พิเศษกับพระเยซู คือ เปโตร ยอห์น และยากอบ
พระเจ้าไม่ได้ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง แต่ทรงเลือกตามวุฒิภาวะ ตามความเข้าใจชีวิต
ทั้งหมดเป็นพระราชอำนาจของพระเจ้า และพระองค์วางทุกคนในตำแหน่งที่เหมาะสมเสมอ

(3) พระเจ้าเลือกเปโตรเป็นอัครทูตระดับประเทศ แต่เลือกเปาโลเป็นอัครทูตระดับโลก
กท.2:9                    เมื่อยากอบกับเคฟาสและยอห์นผู้ที่เขานับถือว่าเป็นหลัก ได้เห็นพระคุณซึ่งประทานแก่ข้าพเจ้าแล้ว ก็ได้จับมือขวาของข้าพเจ้ากับบารนาบัส แสดงว่าเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เพื่อให้เราไปหาคนต่างชาติ และท่านเหล่านั้นจะไปหาพวกที่ถือพิธีเข้าสุหนัต
เคฟาส คือ เปโตร พระเจ้าใช้ให้ประกาศกับพวกยิว
แต่พระเจ้าให้ให้เปาโล ประกาศกับคนต่างชาติ (ประชาชาติ)

คำเทศนา อาทิตย์ที่ 12 ก.ค. 09 รอบบ่าย                                              -6-                                                             โดย ศจ.นิรุทธิ์   จันทร์ก้อน


หลักการของพระเจ้า คือ เลือกใช้คนให้เหมาะสมกับงาน
ตรงกับหลักการบริหารงานบุคคลที่ว่า PUT THE RIGHT MAN ON THE RIGHT JOB
พระเจ้าทรงทราบว่าเราแต่ละคนว่าควรอยู่ตรงไหน อย่างไร
เราจะไม่สามารถเป็นได้ ถ้าพระเจ้าไม่ให้เราเป็น แต่ถ้าพระเจ้าให้เราเป็นสิ่งใด เราจะไม่มีวันปฏิเสธสิ่งนั้นได้
ถ้ามือชิมอาหารไม่ได้ ไม่ใช่ความผิดของมือ เพราะมือถูกสร้างให้หยิบจับของ
ถ้าหูมองไม่เห็น ไม่ใช่ความผิดของหู เพราะหูถูกสร้างให้ฟัง ไม่ใช่มอง

ดังนั้น จงรับใช้พระเจ้าไปเถิด แล้วเราจะค้นพบว่าเราเป็นอะไรในงานของพระเจ้า
เมื่อพบแล้ว จงเป็นสิ่งนั้นให้ดีที่สุด เพื่อเราจะรับรางวัลจากพระเจ้า
ของประทาน คือ 1) เป็นสิ่งที่เราชอบ 2) เป็นสิ่งที่ทำแล้วเรามีความสุข 3) เป็นสิ่งที่ทำแล้วเกิดผล

ค. การบริหารจัดการในสวรรค์
แม้แต่ในสวรรค์ ก็มีการบริหารจัดการอย่างยอดเยี่ยม เพราะพระเจ้าทรงเป็นนักบริหารที่ยอดเยี่ยมที่สุด
วว.4:2-4                  ในทันใดนั้นพระวิญญาณก็ทรงดลใจข้าพเจ้า และนี่แน่ะ มีพระที่นั่งตั้งอยู่ในสวรรค์และมีท่านองค์หนึ่งประทับบนพระที่นั่งนั้น และท่านผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้นปรากฏประดุจแก้วมณีโชติและแก้วทับทิม และมีรุ้งล้อมรอบพระที่นั่งนั้น ดูประหนึ่งแก้วมรกต และล้อมรอบพระที่นั่งนั้นมีที่นั่งอีกยี่สิบสี่ที่นั่ง และมีผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั่งอยู่บนที่นั่งเหล่านั้น ทุกคนนุ่งห่มขาวและสวมมงกุฎทองคำบนศีรษะ
พระวจนะตอนนี้เป็นภาพของการบริหารจัดการในสวรรค์
ผู้ทรงประทับบนบัลลังก์มีผู้เดียว คือ พระเจ้า
รอบพระที่นั่งของพระองค์มีที่นั่งอีก 24 ที่นั่งของผู้อาวุโส
คนขึ้นสวรรค์มีมากมายหลายพันล้าน แต่ที่ได้นั่งรอบพระที่นั่งมีเพียง 24 ที่นั่งเท่านั้น
เป็นระบบการบริหารจัดการของพระเจ้า
ผู้อาวุโส คือ ผู้แทน ผู้รับใช้ที่ยิ่งใหญ่
แม้ในสวรรค์ก็มีการบริหารจัดการที่เยี่ยมที่สุด พระเจ้าทรงยุติธรรม ไม่มีใครตำหนิพระเจ้าได้ในวันพิพากษา

3. ท่าทีต่อกษัตริย์เหนือกษัตริย์
เราให้ความเคารพต่อกษัตริย์ในโลกอย่างไร เราต้องให้พระเจ้ามากกว่านั้น
เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์
ถวาย ต้องถวายสิ่งที่ดีที่สุดให้พระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเวลา ทรัพย์สิน ความสามารถ หรือสติปัญญา
เราทำกับพระเจ้าอย่างไร เรารับตอบแทนจากพระเจ้าอย่างนั้น พระองค์ทรงยุติธรรม
วว.1:5                     และจากพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพยานที่ซื่อสัตย์ และทรงเป็นผู้แรกที่ได้ฟื้นจากความตาย และผู้ทรงครอบครองกษัตริย์ทั้งปวงในโลก แด่พระองค์ผู้ทรงรักเราทั้งหลาย และได้ทรงปลดเปลื้องบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์
วว.17:14                 กษัตริย์เหล่านี้จะกระทำสงครามกับพระเมษโปดก และพระเมษโปดกจะทรงมีชัยชนะ เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นจอมเจ้านาย และทรงเป็นจอมกษัตริย์ และผู้ที่อยู่กับพระองค์นั้น เป็นผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกและทรงเลือกไว้ และเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ก็จะมีชัยด้วย"
วว.19:16                 พระองค์ทรงมีพระนามจารึกที่ฉลองพระองค์ และที่ต้นพระอูรุของพระองค์ว่า "จอมกษัตริย์และจอมเจ้านาย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น